จากการคำนวณของกองโบราณคดี กรมศิลปกร และปูชนีย์วัตถุต่าง ๆ ภายในวัด วัดนี้สร้างครั้งสมัยกรุศรีอยุธยา ต้นรัตนโกสินทร์
ปลายสมัยรัชกาลที่ ๒ พ.ศ. ๒๓๔๐ ซึ่งของบางอย่างของทางวัดบางไกรใน อาทิ ธรรมมาสน์ บุษบกอ่อนช้อยงดงามมากซึ่งทางกรมศิลปกรได้ขอนำไปเป็นของเก่ารักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถาวรวัตถุต่าง ๆ ภายในวัด ได้มีการก่อสร้างเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในสมัยเจ้าอาวาสองค์ก่อน ๆ เรื่อยมา แต่ยังมีของเก่าที่หลงเหลืออยู่ คือ อุโบสถ สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา กว้าง ๗ เมตร ยาว ๒๒ เมตร ก่อด้วยอิฐแผ่นใหญ่ ฉาบด้วยปูนขาวเปลือกหอยผสมน้ำอ้อย ส่วนกำแพงแก้วรอบอุโบสถ ซึ่งมีเจดีย์มุมละ ๓ องค์ ลวดลายงดงามมาก ซึ่งหาดูได้ยากตามวัดวาอารามต่าง ๆ บัดนี้ได้ถูกรื้อพระเจดีย์และกำแพง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓ ได้ขุดพบพระทองคำ และ พระเครื่องต่าง ๆ และพระพุทธรูปบูชาแบบแกะสลัก และ พระบรมสารีริกธาตุบนยอดพระเจดีย์ และในวิหารหลังเก่าอีก ๑ หลัง ซึ่งได้ถูกรื้อถอนไปแล้วเหลือเพียงพระประธาน
สิ่งสำคัญในวัดที่จัดเป็นปูชนียวัตถุ
๑. หลวงพ่อพุทธไกรมงคล หรือ ที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า หลวงพ่อแหน ด้วยเหตุว่า ตอนไปอัญเชิญหลวงพ่อแหนจากอุโบสถหลังเก่า วัดตะระเก(ร้าง) ซึ่งอยู่ในสวนลึก ชาวบ้านได้ทำพิธีบวงสรวงอาราธนาใส่เรือชะล่าขนาดใหญ่ หรือ เรือชุด ใส่องค์หลวงพ่อมา และเรือได้จมลง ทีดอกแหนติดองค์หลวงพ่อใหญ่เต็มไปหมด เมื่อชาวบ้านอัญเชิญขึ้นมาแล้ว เลยเรียกชื่อหลวงพ่อแหนติดปากมากระทั่งทุกวันนี้ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านและข้างเคียง ชาวบ้านนับถือมาก ซึ่งหลวงพ่อแหนนี้ตามประวัติสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา อายุประมาณ ๔๐๐ ปีเศษ ทางวัดได้อัญเชิญมาประดิษฐานภายในวิหารหลังใหม่ ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ องค์หลวงพ่อสร้างด้วยศิลาทรายแดงทั้งองค์ ปางสมาธิ ลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง ๓ ศอก ๑ คืบ ๒ นิ้ว บูรณะลงรักปิดทองใหม่เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๗
๒. พระพุทธรูปหล่อทรงเครื่อง เนื้อโลหะ สูงเท่าคน ปางห้ามสมุทร ปางรำพึง และปางป่าเลไลย์ เป็นพระพุทธรูปโบราณ อายุประมาณ ๒๐๐ ปี
๓. พระพุทธรูปทรงเครื่องปางต่าง ๆ ปางพระพุทธเจ้าเปิดโลก พระมาลัยโปรดนรกสวรรค์ และพระแกะสลักลวดลายต่าง ๆ งดงามมาก
๔. พระพุทธรูป สมัยอยุธยา ๔ องค์ ซึ่งถูกตัดเศียร เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๔๒ เป็นเนื้อศิลาทรายแดง ปัจจุบันได้บูรณะต่อเศียรเสร็จเรียบร้อยแล้ว
๕. ศาลนายไกรทอง อยู่ข้างวิหารพุทธไกรมงคล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น